คอมบูชาคืออะไร?
คอมบูชา (Kombucha) เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับการค้นพบสรรพคุณมากมาย มีต้นกำเนิดเกิดขึ้นในประเทศจีนนานกว่า 2000 ปี พบว่าคอมบูชามีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายมนุษย์เราเยอะมาก จึงขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องดื่มที่ทำลายเชื้อแบคทีเรียอันตรายและเชื้อโรคหลายชนิดเนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยคอมบูชาเป็นเครื่องดื่มที่มาจากการหมักของชาเขียวหรือชาดำร่วมกับน้ำตาล โดยมีการเติมยีสต์และจุลินทรีย์ลงไป โดยส่วนหัวเชื้อที่ใช้หมักเราเรียกว่า SCOBY (a Symbiotic Colony of Bacteria and Yeast) โดยสโคบี้จะเกิดขึ้นหลังจากหมักบ่มชาไประยะหนึ่งแล้ว สโคบี้เกิดจากส่วนผสมของแบคทีเรียและยีสต์ รูปร่างของมันจะคล้ายๆแผ่นวุ้น ลอยอยู่บนน้ำชา มีรูปร่างคล้ายเห็ดและสโคบีนี้จะเข้าทำหน้าที่ย่อยสลายน้ำตาลให้กลายเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อระบบภายในร่างกาย
ทำไมดื่มแล้วดีต่อสุขภาพ
จากการหมักจะได้จุลินทรีย์และยีสต์สายพันธ์ดีหรือที่เรียกว่าโพรไบโอติกส์ ซึ่งมีประโยชน์มากมายต่อร่างกายมนุษย์ เมื่อนำมาดื่มกินพบว่ามีความน่าอัศจรรย์ในเรื่องของการฟื้นฟูสุขภาพ คนที่มีปัญหาสุขภาพสามารถดื่มเพื่อที่จะช่วยฟื้นฟูให้ร่างกายแข็งแรงได้อย่างไม่น่าเชื่อ รวมถึงคนที่มีโรคประจำตัว ยังสามารถดื่มเพื่อการรักษาโรคให้ร่างกายกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงได้อีกด้วย
ด้วยประโยชน์ที่หลากหลายและหลายคนที่เห็นผลลัพธ์จากการดื่มแล้วเกิดความอัศจรรย์ต่อสุขภาพจริงๆ ก็มีการบอกต่อกันมาจนเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้นในปัจจุบัน เครื่องดื่มคอมบูชา (Kombucha) นั้น มีความเชื่อว่ามีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ ด้วยการที่เครื่องดื่มชนิดนี้ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมากมายที่จะต่อต้านการเสื่อมของเซลล์ ทำให้เซลล์ร่างกายแข็งแรงไม่ถูกทำลาย ส่งผลให้คนที่ดื่มเข้าไปจะมีสุขภาพที่ดีไปด้วย ดังนั้นหลายคนก็ดื่มกันเป็นประจำเพราะมีความเชื่อว่าจะช่วยให้อายุยืนยาว มีสุขภาพที่ดี มีหลายคนที่ดื่มเพื่อให้ระบบขับถ่ายกลับมาเป็นปกติ เพราะคอมบูชา (Kombucha) นั้นเป็นเครื่องดื่มที่ประกอบด้วยจุลินทรีย์และยีสต์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ ซึ่งเมื่อเราดื่มเข้าไปจะเป็นการเพิ่มจำนวนของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในลำไส้ของเรา ซึ่งจะช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร ช่วยให้มีการย่อยของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คนที่ท้องผูก มีปัญหาเรื่องการขับถ่าย หรือคนที่ไม่สามารถถ่ายได้เป็นปกติ กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ ถ่ายเป็นปกติได้แบบไม่ต้องกังวลปัญหาท้องผูกอีกต่อไป คนไหนทานคีโตแล้วมีอาการท้องผูกหรือท้องเสียสามารถดื่มคอมบูชาช่วยได้ค่ะ ใครที่ไม่รู้ว่ากินแบบคีโตคืออะไร ทำไมถึงดีต่อสุขภาพ อ่านได้ที่นี่
อีกทั้งพอดื่มคอมบูชาเข้าไป โพรไบโอติกส์ก็จะเข้าไปยังร่างกาย ไปช่วยในกระบวนการย่อยของเสีย เร่งกระบวนการทำงานให้ลำไส้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ทำให้สามารถถ่ายออกมาได้ตามปกติ รวมทั้งถ้าใครที่มีปัญหาท้องเสีย ก็สามารถทานเครื่องดื่มคอมบูชา (Kombucha) เพื่อช่วยได้เช่นกัน เพราะปัญหาท้องเสียนั้นมาจากการที่มีแบคทีเรียที่ไม่ดีต่อสุขภาพไปอยู่ในลำไส้ ทำให้ร่างกายจะต้องขับออก จึงส่งผลให้เกิดภาวะท้องเสีย ซึ่งจุลินทรีย์ในคอมบูชาจะช่วยกำจัดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ดี ทำให้เรากลับมามีระบบขับถ่ายที่ดีอีกครั้ง ด้วยการที่คอมบูชานั้นเป็นเครื่องดื่มที่ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้นนอกจากช่วยให้อายุยืนยาวแล้ว ยังมีผลดีต่อสุขภาพในเรื่องของการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดีและต่อสู้กับเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ใครที่มีปัญหาสุขภาพ มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง มีอาการป่วยบ่อยๆหรือมีอาการป่วยที่รุนแรงกว่าคนอื่น การทานคอมบูชาก็จะเป็นอีกตัวเลือกในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายของคุณได้อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการวิจัยพบว่าใน ชาหมักคอมบูชา (Kombucha) นั้นมีกรดอินทรีย์ที่มีประโยชน์มากมาย ดังต่อไปนี้
- กรดอะซีติก/Acetic Acid ยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียก่อโรคบางชนิด และถนอมอาหาร
- กรดแลคติก/Lactic Acid : ช่วยในการย่อยอาหารและถนอมอาหาร
- กรดมาลิก/Malic Acid : ช่วยในกระบวนการล้างพิษ
- กรดออกซาลิก/Oxalic Acid : ส่งเสริมการผลิตพลังงานของเซลล์ และถนอมอาหาร
- กรดกลูโคนิก/Gluconic Acid : เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
- กรดบิวทิริก/Butyric Acid : ลดอาการอักเสบ
- กรดนิวคลีอิก/Nucleic Acid : ซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์
- กรดอะมิโน/Amino Acids : ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- กรดโฟลิก/Folic Acid : สร้างเม็ดเลือดแดง และควบคุมการทำงานของสมอง
- กรดกลูคูโรนิก/Glucuronic Acid : ล้างพิษตับ
ประโยชน์ของคอมบูชา (Kombucha)
- ช่วยแก้อาการท้องอืด, ท้องผูก, อาหารไม่ย่อย
- ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย
- บรรเทาอาการอ่อนเพลีย
- ช่วยลดคลอเลสเตอรอล
- ช่วยกำจัดไขมันเลว (LDL)
- ช่วยลดความดัน
- ช่วยลดการอักเสบ
- ช่วยลดไมเกรน
- ช่วยการทำงานของตับและขับสารพิษ
- ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
- ช่วยต้านไวรัส
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
วิธีดื่ม Kombucha
ควรดื่มตอนท้องว่าง ก่อนทานอาหาร 20 นาที หรือ ดื่มหลังอาหาร 1 ชั่วโมง วิธีดื่มคือให้อมไว้ก่อนในปาก แล้วค่อยกลืน สำหรับคนที่ไม่เคยดื่มมาก่อน ให้เริ่มดื่มทีละน้อยๆ ไม่เกิน 1 ช็อต ต่อมื้อ สามารถดื่มแทนน้ำอัดลมน้ำหวาน แถมยังนำไปปั่นทำเป็นสมู้ทตี้ได้ด้วย รสชาติของน้ำหมักคอมบูชามีรสเปรี้ยวและหวานเล็กน้อย มีความซ่าและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
ข้อควรระวังของการดื่ม Kombucha
ความหวานที่ได้มาจากผลไม้ ซึ่งเป็นน้ำตาลจากธรรมชาติ เพราะฉนั้น ถ้าดื่มเยอะเกินไปแล้วไม่ได้ใช้พลังงานก็อาจทำให้อ้วนได้ อีกทั้งงานวิจัยที่ทดลองใช้น้ำหมักคอมบูชานี้กับคนค่อนข้างมีจำกัด ดังนั้น ผู้บริโภคควรดื่มอย่างพอดี ไม่มากจนเกินไป และควรซื้อ Kombucha จากแหล่งร้านค้าที่เชื่อถือได้ เพราะการหมักต้องหมักโดยกรรมวิธีที่สะอาด และต้องหมักในขวดแก้วเท่านั้น เพราะถ้าหมักในภาชนะชนิดอื่น อาจทำปฏิกิริยากับกรดและปล่อยสารพิษออกมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค เช่น ท้องเสีย, มีอาการด้านระบบทางเดินอาหาร หรืออาการแพ้ เมื่อดื่มแล้วเกิดอาการผิดปกติเช่น อาเจียน, วิงเวียน, มึนงง ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน เครื่องดื่มชาหมักคอมบูชา (Kombucha) ไม่เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี, หญิงมีครรภ์และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
วิธีหมักคอมบูชา
อุปกรณ์
- แผ่นชาหมัก
- หัวเชื้อ (น้ำชาที่หมักครั้งก่อน) 10% ขึ้นไปต่อปริมาณน้ำที่ใช้
- ชา 2-3 ช้อนชา (ชาลิปตัน ชาเขียว ชาอู่หลง หรือชาดำ) ควรเลือกชาที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน
- น้ำดื่ม 1 ลิตร
- น้ำตาลทราย ¼ – ⅓ ถ้วยตวง
- ภาชนะแก้วสำหรับการหมักที่มีปริมาตร 1.25 ลิตร เพื่อให้มีช่องว่างสำหรับอากาศ
- ผ้าขาวสำหรับปิดภาชนะ (ผ้าฝ้าย ผ้าดิบ หรือผ้าขาวบาง)
- หนังยางเส้นใหญ่สำหรับรัดปากภาชนะ
ขั้นตอนการหมัก
- ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด
- ใส่ชาลงไปแล้วค่อยๆใช้ช้อนกดเบาๆ เพื่อให้ชาละลาย ต้มไปเรื่อยๆใช้เวลาประมาณ 5 นาที
- เติมน้ำตาลทรายลงไป ค่อยๆคนให้ละลายแล้วปิดฝาหม้อ
- จากนั้นรอให้น้ำหายร้อน
- เมื่ออุณหภูมิของน้ำเท่ากับอุณหภูมิห้อง (23-29 องศาเซลเซียส) ให้เทใส่ภาชนะแก้ว
- ใส่หัวเชื้อลงไปประมาณ 10% ของน้ำในภาชนะ
- คนให้เข้ากันเบา ๆ แล้วจึงใส่แผ่นชาหมักตามลงไป
- ปิดภาชนะด้วยผ้า จากนั้นใช้ยางรัดฝาขวด
- ตั้งไว้ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก
ข้อควรระวัง
- พยายามอย่าให้ขวดถูกกระทบกระเทือน
- พยายามอย่าตั้งในที่ที่ขวดจะโดนแดดโดยตรง
- อย่าปิดฝาแน่นจนเกินไป เพราะอากาศจะไม่สามารถเข้าได้ เนื่องจากว่าในกระบวนการหมักคอมบูชานี้ เราจำเป็นต้องอาศัยอากาศถ่ายเท
- อย่าตั้งไว้ในครัวเพราะเวลาทำอาหารจะมีไอน้ำมันออกมา ไอน้ำมันเหล่านั้นจะไปฆ่าเชื้อจุลินทรย์ดีๆตายหมด
- เมื่อถึงวันที่ 5 ของการหมักจะสังเกตได้ว่ามีแผ่นวุ้นตัวใหม่เกิดขึ้นด้านบนเหนือผิวชา สามารถชิมได้ว่าได้รสชาติที่ชอบหรือยัง ถ้าต้องการให้มีรสชาติเปรี้ยวเพิ่มขึ้น ให้เพิ่มระยะเวลาของการหมัก โดยปกติระยะเวลาในการหมักจะอยู่ในระหว่าง 7-15 วัน
- เมื่อได้รสชาติที่ต้องการแล้วให้นำไปกรองใส่ภาชนะแก้วพร้อมกับเว้นช่องว่างไว้เล็กน้อย สำหรับให้จุลินทรย์ได้หายใจ จากนั้นให้เหลือน้ำชาไว้เพื่อเล็กน้อย ประมาณ 10% เพื่อเป็นหัวเชื้อในการหมักครั้งถัดไป
- ในการหมักครั้งใหม่ให้ย้อนกลับไปเริ่มที่ข้อ 1
- ถ้าต้องการเพิ่มจำนวนก็ใช้วิธีเดิมแต่ปรับสัดส่วนแทน ตามปริมาณของน้ำชาที่คุณต้องการ
รู้แบบนี้แล้ว ลองไปหาคอมบูชามาดื่มกันดีกว่า จะทำเองก้ง่ายแสนง่าย หรือใครขี้เกียจทำ สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าเพื่อสุขภาพทั่วไป ลองดื่มแล้วเป็นยังไง อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังนะคะ